วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552

มันเป็นไปแล้ว

ผมเป็นคนต่างจังหวัด ครอบครัวเรามีสี่คนคือ พ่อ แม่ ผมซึ่งเป็นลูกชายคนเดียว และน้องสาวของพ่อซึ่งเป็นอาผม พ่อกับแม่รับราชการ ผมอายุ 15 ปีและอาผมอายุ 19 ปี ผมและอาเรียนที่เดียวกันโดยผมเรียน มศ.1 อาเรียน มศ.4
อาของผมเป็นคนสวยมาก ผิวขาว ร่างอวบ โดยเฉพาะเอวคอดรับกับสะโพกที่ผายออก ช่วงขาที่แข็งแรงเพราะเป็นนักกีฬาของโรงเรียน ยามใดที่ผมและอาไปโรงเรียนด้วยกัน หนุ่มน้อยใหญ่มองกันแทบเหลียวหลัง ซึ่งทำให้ผมชื่นชมในตัวอาเป็นอย่างมาก
ผมและอาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจึงสนิทสนมกันมาก จนกระทั่งเย็นวันหนึ่งหลังจากเลิกเรียนแล้ว ขณะที่ผมกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องของผม อาเดินเข้ามาในห้องชวนคุยและในตอนหนึ่งอาบอกว่าวันนี้อาเรียนวิชาเกี่ยวกับสรีระร่างกายของหญิงและชายอยากขอดูร่างกายเปลือยของผมโดยอาจะแลกเปลี่ยนให้ผมได้ดูเรือนร่างของอาบ้าง
ผมในตอนนั้นก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงเปลือยกายมาก่อนจึงนึกสนุกตอบตกลง และทั้งผมและอาก็เกี่ยงกันถอดเสื้อผ้าอยู่นานจนในที่สุด ทั้งผมและอาก็เปลือยกายต่อหน้าซึ่งกันและกัน
เราต่างจ้องมองกันตาไม่กะพริบ เรือนร่างของอาสวยมาก นมของอาใหญ่และสวยสีชมพูทั้งเต้าจนเห็นริ้วเส้นเลือด
สะโพกผายรับกับเอวคอดกิ่ว เนินของอานั้นปกคลุมด้วยแพรดำระยับ ส่วนอาก็จ้องมองความเป็นชายของผมเขม็ง และพูดว่าแปลกไม่เคยเห็นมาก่อนเลย และเอื้อมมือมาประคองจับขึ้น ผมในตอนนั้นซึ่งไม่คิดอะไรร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งท่อนและมันก็ค่อยขยายขึ้นอย่างสุดระงับจนอาตกใจ
อารูดปลายลงพร้อมกับพูดอยู่คำเดียวว่าแปลก แปลก ส่วนผมนั้นเกิดความรู้สึกที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อยากให้อาทำอยู่อย่างนั้นตลอดไป อาประคองจับอยู่สักครู่ก็ปล่อย ในที่สุดเราก็สวมเสื้อผ้า และอาก็ขอตัวออกจากห้องไป
เมื่ออาออกไปแล้ว ผมเกิดความรู้สึกประหลาดกับอาอย่างไม่เคยคิดมาก่อน
คืนนั้นผมต้องช่วยตัวเองตลอดทั้งคืนโดยมีร่างอาวนเวียนอยู่ในสมองอย่างไม่มีทางลืมได้
หลังจากวันนั้นแล้วผมจะคอยแอบมองเรือนร่างของอาอยู่ตลอดจนกระทั่งทนไม่ได้ต้องเจาะห้องน้ำแอบดู เรือนร่างที่ผมใฝ่ฝันจึงตกอยู่ในสายตาผมอีก ผิวสีชมพู แก้มอิ่มเปล่งปลั่งระลงมาช่วงคอ เนินอกสล้างตั้งเต้าชูชัน สะโพกผายออกรับกับเรียวขาแข็งแรงเพราะเป็นนักวอลเล่ย์
ผมทนไม่ได้อีกต้องรีบกลับไปช่วยตัวเองที่ห้องนอน เป็นเช่นนี้อยู่นาน
วันนั้นเป็นวันศุกร์ เมื่อเลิกเรียนเราต่างก็กลับบ้าน วันนั้นอาเข้าครัวทำอาหาร ผมก็เฝ้ามองอาโดยคิดว่าถ้าได้อามาเป็นแม่บ้านผมคงมีความสุขมาก
ค่ำวันนั้นหลังจากดูทีวีแล้วอาก็เข้านอน ผมนั้นรู้สึกแปลก ๆ เพราะพ่อแม่ไม่อยู่บ้านมันเงียบพิกล
ฝนก็พรำลงมาด้วยเลยเดินไปที่ห้องอาเปิดประตูเข้าไป ผมถึงกับยืนตะลึง ไฟในห้องอาสลัวแต่ยังพอเห็นภาพได้ อานอนหลับสนิท เสื้อคลุมนอนของอาร่นสูงเกือบถึงสะโพก โคนขาขาวอวบของอาเห็นได้ชัด
ผมคล้ายถูกมนต์สะกดเดินตรงเข้าไป เสียงฝนกลบการเคลื่อนไหวหมดสิ้น อยากเอื้อมมือลูบโคนขาของอาใจแทบขาดแต่ไม่กล้า
มือผมเลิกเสื้อคลุมขึ้นไปอีก สิ่งที่ผมคิดถึงทุกเมื่อเชื่อวันก็ปรากฏ ปกคลุมด้วยไหมดำระยับดูโหนกนูนเม้มสนิทจนไม่เห็นรอยแยก
ผมเอื้อมมือไปแตะ ความรู้นึกผมวูบวาบราวถูกไฟช็อต ยอมรับว่าผมมีอารมณ์มากจนทนไม่ได้จึงถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว ของผมผงาดขึ้นจนร้อนผ่าว ผมไม่เคยเห็นมันพองใหญ่อย่างนี้มาก่อนเลย
แล้วผมก็ฟุบหน้าลงกับเนินของอาอย่างขาดความยับยั้งใจ อาตกใจตื่นและร้องขึ้นแต่ผมหาฟังไม่ ผวาเข้ากอดอาเต็มแรง และพร่ำว่ารักอา
อาผลักผมออกและหมุนตัวหันหลัง ผมไม่ยอมกอดด้านหลังอาไว้แน่น สะโพกใหญ่ของอาเบียดเจ้าเนื้อของผมแนบแน่น อารมณ์ผมยิ่งสุดระงับจูบไซ้ซอกคออา จนอาหยุดดิ้นรน
มือผมปลดเสื้อนอนตัวหลวมของอาออกอย่างรวดเร็ว จับอานอนหงายและกดมือทั้งสองของอาไว้ ฟุบหน้าลงกับอกสล้างของอาทันที ดูดดมจนอาร้องคราง
อาบิดมือหลุดผวากอดผมจนแน่นบ้าง ผมจึงสอดมือจับของผมดันเข้าไปจนอาผวาร้องครวญคราง ช่วงขาแข็งแรงเกี่ยวกระหวัดรัดเอวผมและผมก็ค่อยค่อยดันเข้าไปทีละน้อยจนหมด
ช่องหลืบของอาร้อนราวกับมีไฟลุกไหม้อยู่ข้างใน กระชับถี่ราวกับมีชีวิต และทั้งผมและอาก็ขยับบั้นเอวเข้าหากันอย่างไม่ยับยั้ง เสียงครวญครางของเราสองดังแข่งกับสายฝนอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยจนเสียงหวีดร้องของอาดังขึ้น ผมจึงขยับร่างจนสุดทนเสียวซ่านต้องฟุบหน้าลงกับซอกคออา
กระตุกถี่อยู่นานและเราสองก็สงบลงทั้งคู่ อาต่อว่าผมต่าง ๆ นานา และคืนนั้นผมก็ร่วมกับอาอีกจนอาอ่อนอกอ่อนใจ หลังจากนั้นมาผมและอาก็หาโอกาสมีความสุขกันแทบทุกคืน จนพ่อแม่ผมจับได้ในขณะที่เรานอนกอดก่ายกันอยู่
ผมและอาต้องจากกันโดยผมถูกส่งไปเรียนที่กรุงเทพฯ อากลับบ้านไปอยู่กับปู่และย่า จนบัดนี้อาก็ได้แต่งงานไปแล้ว แต่ผมก็ไม่สามารถลืมเหตุการณ์ที่ผ่านมานี้ได้เลย..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น