วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

แล้วเพื่อนผมละ

ความรักของเราเริ่มขึ้นเมื่อปลายปี34ผม21เธอ23ผมเด็กต่างหวัดเธอเด็กเทพผมรักเธอมากและเข้าใจว่าเธอรักผมมากเพราะเราไม่เคยจะแยกจากกันเลยและอยู่อาศัยที่บ้านเธอ ต้นปี37เธอเปลี่ยนงานปลายปีผมจับได้ว่าเธอมีกิ๊กกับเจ้านายของเธอ เธอเลือกที่จะอยู่กับผม แต่รู้ว่าเธอยังแอบและไม่แอบติดต่อกับกิ๊กของเธอ ปลายปี38ผมเริ่มยอมรับได้และเริ่มเกี่ยวพันกับอารมณ์สวิงและยอมรับเธอมีกิ๊กได้ตลอดขณะที่อารมณ์สวิงเริ่มสิ่งสู่ใจส่วนลึกและเพื่อนสนิทของผมผู้มีลำหักลำโค่นหนักกว่าผม(7"x7"ผม5.5x5.8เจ้านายเธอประมาณว่า6"x8") ต้นปี39ผมชักจูงจนเธอยอมรับรักแบบสองต่อหนึ่งมาตลอดผมกับเพื่อนรัก ขณะที่บางวันเธอต้องไปกับเจ้านายเธอและกลับมาตอนดึกให้ผมได้สมใจอยากกับน้ำกามเจ้านายเธอเต็มร่องและผมซ้ำมาตลอดจนปลายปี41 เศรษฐกิจซบเซา ผมออกจากงานมาทำธุระกิจของตัวเองที่จังหวัดเกิด เพื่อนผมก็ย้ายไปที่อื่นไม่ได้เจอกันเลย เธอก็มาหาผมบ่อยทุกอาทิตย์ต้นปี42ญาติผู้พี่อายุไม่ห่างกัน ก็ไม่มีงานเลยมาช่วยผม ได้เจอและพูดคุยถูกคอกันดี อีกสามเดือนต่อมาเธอก็ยอมนอนกับพี่ผมและผมแบบสองหนึ่งเช่นเคย(พี่ผม3.8"x3.8"แต่ทำได้ตลอดคืน แข็งดี) ทุกศุกร์เสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาเธอก็กลับกรุง อยู่กับเจ้านายเธอและกลับมานอนบ้าน ปี44ผมล้มเหลวด้านธุระกิจ เธอเริ่มมาห่างเป็นเดือนละครั้ง สองเดือนครั้ง สามเดือนครั้ง พี่ผมก็กลับเข้ากรุงเทพหางาน ผมก็ยังฝืนทำต่อเพราะลงทุนไปเยอะ เมื่อเธอมาหา หรือโทรคุยกัน เธอก็ยอมรับว่าแอบไปนอนกับพี่ผมบ่อยๆจนปลายปี44ก็เลิกคบกันเพราะพี่ผมมีปัญหาเรื่องเงิน เธอยังไปนอนกับเจ้านายเธออยู่ ต้นปี45ผมติดต่อเพื่อนรักผมได้ มันไปเรียนต่อจบและทำงานอีกครั้ง เรานัดพบก็อีกครั้งที่บ้านต่างหวัดและมีรักกับเธอแบบสองหนึ่งอีกอย่างหนักหน่วงรุนแรงและยาวนานเพราะมีเวลาเยอะกว่าอยู่กรุงอีกไม่มีใครรบกวน เมื่อกับกรุงเทพเธอยังไปหาเจ้านายเธออยู่ และยอมรับว่าแอบไปนอนกับเพื่อนผมแต่ไม่บ่อย ต้นปี46 ธุระกิจที่ทำเริ่มไม่ไหว ทุนเริ่มหมดผมต้องหางานทำแถวๆบ้าน เธอมาหาผมอีกหนึ่งครั้งหลังปีใหม่ปี46แล้วก็ไม่มาอีกเลย มีเพียงโทรหากันแทบทุกวัน เธอก็เตือนก็บอกว่าให้เข้ามาหางานทำในกรุง เพราะรายได้ที่ผมได้รับมันไม่ถึง8000พันกับหนี้สิ้นครึ่งล้าน แต่ผมก็ฝืนเพราะห่วงธุระกิจที่ยังประคองอยู่ เดือนที่สี่ของปีนั้นเจ้าหนี้เริ่มทวงถามและกดดันจนไม่สามารถฝืนทนอยู่ได้กลางปีผมทิ้งธุระกิจที่ทำ เข้ามาหางานทำในกรุง เย็นวันที่ผมเข้ากรุง ผมโทรไปบอกเธอหวังเซอร์ไพส์ แต่ผมเซ่อแดก เธอบอกมีปัญหาที่บ้านไม่อยากให้ผมเข้าไปยอมไปนอนกับบ้านเช่าญาติสองคืนก็ได้งานออกต่างจังหวัด เรายังโทรตุยกัน เธอบอกให้ผมอดทน ส่วนเพื่อนผมก็เปลี่ยนงานไม่ค่อยชอบรับโทรศัพท์ แล้วจิ๊กซอร์ข้อมูลของผมก็เริ่มขึ้นจากโจทว่าทำไม่บ้านที่เคยอยู่ ห้องที่เคยนอน ที่ๆเคยยืนไม่มีอีกแล้ว เงาแรกคือเจ้านายของเธอ เงาเดียว แต่ดูเหมือนทุกคนจะปิดบังไม่ให้ผมรู้แต่มีเบาะแสทั้งสิ้น ต้นปีนี้ ปี47ผมใช้หนี้หมดและเริ่มเก็บเงินจะซื้อรถพร้อมๆกับภาพจิกซอร์ที่แจ่มชัดขึ้น มีเงาอีกเงา คือเพื่อนรักของผมไม่ใช่เจ้านายของเธอโดยสิ้นเชิง เธอพาเพื่อนผมเข้าบ้าน นอนกับเพื่อนผมบนที่นอนที่ผมเคยนอน ยืนที่ๆผมเคยยืน อยู่ในบ้านที่ผมเคยอยู่ ถามว่าทำไมผมจึงไม่ถามเธอแต่แรก ผมตอบได้ ว่าผมกลัวคำที่เธอจะตอบในขณะที่ผมติดลบ แต่ผมก็ถามเธอในคืนนี้คืนที่ผมเป็นศูนย์และเดินทางไปในแดนเก็บออม คืนที่จิ๊กซอตัวสุดท้ายวางลงไป เธอยอมรับกับผมว่าเธอพาเพื่อนผมไปทำหน้าที่ผัวของเธอเรียบร้อยแล้ว ส่วนผมยังโรบินฮู๊ดเช่าบ้านนอนร่อนเร่ไปตามงานที่ได้รับมา เมื่อผมต้องการคำตอบจากเธอ ทั้งแบบที่ผมอยากฟังและไม่อยากฟัง เธอก็บอกว่าขอเวลาสองวันเพื่อจะลางานมาคุยกับผมหรืออาจจะมาให้คำตอบผม ตอนที่พิมพ์ผมรับทราบความรู้สึกตัวเองได้ว่าไม่ว่าคำตอบจะเป็นยังไงผมก็ต้องรับให้ได้
ผมยอมรับว่าเรื่องที่เล่ามาอาจจะเอนเอียงเข้าข้างตัวเองบ้างในด้านการงานธุระกิจส่วนเรื่องเม็ดงินและความสันพันธ์ต่างๆล้วนจริงทั้งสิ้น คุณจะไม่เชื่อเลยว่าหญิงสาวที่คุณมองว่าอินเทรนๆแบบนี้แหละที่ผมกำลังจะเป็นบ้า ผมอยากหาคำตอบจากเพื่อนๆว่าอีกสองวันผมจะได้คำตอบอย่างไร ถ้าคำตอบที่ผมไม่อยากได้ยินทุกอย่างคงจบ ผมก็คงเมาอยู่ซัก....สองวันแล้วก็ทำงานต่อ แต่ความเป็นคนของผมคงเปลี่ยนไป แต่หากคำตอบเป็นไปในแบบที่ผมอยากได้ยิน.....ผมจะไปยืนอยู่ตรงที่ๆผมเคยยืน....แบบไหน อย่างไร และทำไม......แล้วเพื่อนผมละ!!!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น